G-SHOCK 40th ANNIVERSARY FULL CARBON EDITION ด้วยนวัตกรรมคาร์บอนไฟเบอร์ชนิดพิเศษ

G-SHOCK 40th ANNIVERSARY FULL CARBON EDITION ตอกย้ำความแข็งแกร่งและนวัตกรรมล้ำสมัยกับนาฬิการุ่นพิเศษ ผลิตจากวัสดุคาร์บอนชนิดพิเศษ น้ำหนักเบา และดีไซน์ที่น่าหลงใหล

G-SHOCK นาฬิกาในตำนานที่ไม่ว่าจะเปิดตัวมาในรูปแบบใดก็ได้รับการตอบรับที่ดีเสมอมา ด้วยเสน่ห์ของตัวเรือนที่มีความแข็งแกร่งทนทานอย่างที่สุด มาพร้อมกับฟังก์ชันอันหลากหลายและล้ำสมัยที่ทางแบรนด์ได้พัฒนาต่อยอดมาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้แล้วยังได้ครองส่วนแบ่งจากตลาดนาฬิกามาโดยตลอด เพราะเป็นที่ต้องการของนักสะสมและเป็นนาฬิกาเรือนแรกที่ทุกคนนึกถึงอยากได้มาครอบครอง จึงสามารถทำให้ชื่อเสียงของ G-SHOCK กระจายไปทั่วโลกได้อย่างรวดเร็ว

เนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 40 ปี ของ G-SHOCK ทางแบรนด์ CASIO จึงถือโอกาสเปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่ GCW-B5000UN ที่โดดเด่นด้วยตัวเรือนผลิตจากวัสดุคาร์บอนหลากชนิด ทำให้นาฬิกามีความทนทานสูงอันเป็นเอกลักษณ์ของ G-SHOCK โดยทางแบรนด์ได้นำการดีไซน์ของ DW-5000C ที่เป็นนาฬิกา G-SHOCK เรือนแรกของโลก ซึ่งเป็นการดีไซน์ที่ได้สร้างสถิติการเป็นนาฬิกาที่แข็งแกร่งมากที่สุดในโลก จนได้รับการรับรองจาก Guinness World Records มาเป็นต้นแบบในการสร้างสรรค์นาฬิการุ่นใหม่นี้ ซึ่งมีทั้งหมด 2 รุ่น ได้แก่ GCW-B5000UN-1 ที่มีลวดลายผสมผสานระหว่างสีดำและสีเทา และ GCW-B5000UN-6 ที่ผสมผสานวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์สีดำเข้ากับเรซินสีฟ้าและสีชมพู พร้อมแต่งแต้มสีมุกแวววาวเสมือนดวงดาวระยิบระยับในยามค่ำคืน โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากจักรวาลอันกว้างใหญ่ที่พบได้จากบิ๊กแบงที่มีวิวัฒนาการจนกลายเป็นกาแล็กซีและดาวเคราะห์ต่าง ๆ โดยทั้งสองรุ่นใหม่นี้ได้ใช้วัสดุคาร์บอนชนิดพิเศษที่ยืดหยุ่นได้เป็นอย่างดี มาหล่อหลอมขึ้นรูปเป็นหน้าปัดและสายของนาฬิกา ส่วนคาร์บอนแบบหลายชั้นที่สามารถโค้งงอได้ดีถูกนำมาผลิตเป็นตัวล็อกสาย ชิ้นส่วนของกรอบด้านหน้าและฝาหลังจะใช้วัสดุคาร์บอนเสริมเรซิน มาพร้อมตัวเรือนเรซินที่เสริมความแข็งแกร่งด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ โดยวัสดุคาร์บอนอันหลากหลายที่นำมาผลิตเป็นส่วนต่าง ๆ ของนาฬิกานี้ ทำให้ได้นาฬิกาที่มีความทนทาน แต่น้ำหนักเบามากเพียง 65 กรัมเท่านั้น ซึ่งเบากว่ารุ่น GMW-B5000D ที่เป็นนาฬิกาโลหะทั้งเรือน เบาลงถึง 61% เลยทีเดียว โดยนาฬิกาแต่ละเรือนนั้นเป็นการขึ้นแบบเรือนต่อเรือน จึงทำให้การกระจายตัวของผงโอปอลบนพื้นผิวของแต่ละชิ้นส่วนไม่เท่ากัน เกิดเป็นลวดลายและโทนสีอันเป็นเอกลักษณ์ที่เฉพาะตัวในแต่ละเรือน มาพร้อมตัวเรือนขนาด 49.1 × 45.0 × 14.5 มิลลิเมตร สามารถกันน้ำลึกได้ 200 เมตร ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบพลังงาน Tough Solar ที่ชาร์จด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ สำรองพลังงานได้ประมาณ 10 เดือนหลังจากชาร์จพลังงานจนเต็มหากใช้ทุกฟังก์ชัน และอยู่ได้ประมาณ 22 เดือนหลังจากชาร์จพลังงานจนเต็มเมื่อเปิดโหมดประหยัดพลังงาน นอกจากนี้ยังจัดเต็มด้วยฟังก์ชันอันหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการดาวน์โหลดแอปเฉพาะเพื่อจับคู่กับสมาร์ตโฟนผ่าน Bluetooth® ด้วยการควบคุมวิทยุ Multiband 6 เพื่อบอกเวลาอัตโนมัติที่แม่นยำ, แสงพื้นหลัง LED อัตโนมัติเต็มรูปแบบความสว่างสูง, เวลารอบโลก, การแสดงผลในหกภาษา, ระบบจับเวลา, นับเวลาถอยหลัง, สัญญาณแจ้งต้นชั่วโมง, ปฏิทินแบบเต็มโดยอัตโนมัติ (ถึงปี 2099), และการบอกเวลาแบบทั่วไป คือ ชั่วโมง, นาที, วินาที, เวลาหลังเที่ยง, วันที่, วันในรอบสัปดาห์ และเดือน ทั้งหมดนี้คลุมด้วยกระจกคริสตัลแซฟไฟร์ที่สามารถป้องกันรอยขีดข่วนได้เป็นอย่างดี โดยนาฬิกาทั้งสองรุ่นใหม่นี้มีราคาอยู่ที่ 82,000 บาท


ตรวจสอบ ราคานาฬิกา Rolex มือสอง ได้ที่นี่

ตรวจสอบ ราคานาฬิกา Patek Philippe มือสอง ได้ที่นี่

ตรวจสอบ ราคานาฬิกา Audemars Piguet (AP) มือสอง ได้ที่นี่

Auction House เว็บไซต์ ซื้อ - ขาย นาฬิกามือสอง ของแท้ ตรวจสอบราคา Rolex, Patek philippe, Audemars Piguet (AP), Omega, Panerai, IWC, Hublot, Cartier, Franck muller ได้ที่นี่

RELATED POSTS

Our recent work

Vacheron Constantin Berkley Grand Complication นาฬิกาที่ซับซ้อนที่สุดในโลก
IWC Portugieser Eternal Calendar เป็นนาฬิกาปฏิทินถาวรสุดพิเศษ กับ Moonphase ที่แม่นยำที่สุดในโลก
Bvlgari Octo Finissimo Ultra COSC  อีกครั้งกับสถิติใหม่นาฬิกาที่มีกลไกบางที่สุดในโลก
Oris Big Crown นาฬิกานักบินเรือนแรกของแบรนด์
Oris Big Crown นาฬิกานักบินเรือนแรกของแบรนด์
Oris (โอริส) แบรนด์นาฬิกาสัญชาติสวิสฯ…
Patek Philippe No. 174 603 นาฬิกาข้อมือผู้หญิงที่มีความซับซ้อนเรือนแรกของแบรนด์
นาฬิกาคอลเลกชันแรกของแบรนด์ Nomos เปิดตัวในปี 1991
Classic Original นาฬิกาเรือนแรกของแบรนด์ Hublot
 TUDOR Advisor นาฬิกาปลุกเรือนแรกของแบรนด์
TUDOR “CATANACH’S” นาฬิกาเรือนแรกของ TUDOR